เรื่อง คอนโดฯ กับดวงชะตาเจ้าของห้อง  

เรื่อง คอนโดฯ กับดวงชะตาเจ้าของห้อง                                                    โดย อ.มาโนช ประภาษานนท์

ผมพูดถึงหลักในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมไปแล้ว แต่คนส่วนใหญ่มักจะถามผมเสมอว่า เกิดปีนี้ราศีนี้ ควรจะอยู่คอนโดฯแบบใดทิศใดถึงจะดี ผมคงต้องบอกกันก่อนว่า การนำเรื่องของดวงชะตาบุคคลมาพิจารณานั้น เป็นปัจจัยเสริมมากกว่าจะเป็นโจทย์หลักในการใช้ตัดสิน
หลายคนเข้าใจผิดในเรื่องนี้มาก ซึ่งทำให้การวิเคราะห์ฮวงจุ้ยผิดเพี้ยนไปได้ หลักในการวิเคราะห์ว่า ฮวงจุ้ยดีหรือไม่ดี จะต้องนำเรื่องของสภาพแวดล้อม (ชัยภูมิ) มาเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณา
ตามหลักฮวงจุ้ย จะกำหนดปีเกิดกับทิศทางที่สมพงศ์กัน การเลือกตำแหน่งห้องในคอนโดฯ จึงพิจารณาทิศที่ถูกโฉลกกับเจ้าของห้องเป็นหลัก ใครเกิดปีใดควรจะอยู่ทิศใด เพื่อให้ง่ายเข้าผมจะสรุปออกมาให้ดูว่า ใครเกิดปีอะไรควรจะเลือกคอนโดฯอยู่ทางทิศใด

ปีกุนและปีชวด คนเกิด 2 ปีนี้ในทางฮวงจุ้ยจะจัดเป็นคนธาตุน้ำ ทิศทางที่ถูกโฉลกจะเป็นทิศเหนือ ตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนทิศต้องห้ามจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้
ปีขาลกับปีเถาะเป็นบุคคลธาตุไม้ ทิศดีจะต้องเป็นทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ และทิศเหนือ ส่วนทิศร้ายจะเป็นทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ
ปีมะเส็งกับปีมะเมีย เป็นคนธาตุไฟ ทิศที่ถูกโฉลกคือ ทิศใต้ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ หลีกเลี่ยงทิศเหนือ เพราะเป็นทิศปะทะโดยตรง
ปีวอกกับปีระกา เป็นคนธาตุทอง ทิศที่เหมาะกับคนธาตุทองคือ ตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ทิศไม่เหมาะก็คือทิศใต้
ปีฉลู มะโรง มะแม จอ จัดเป็นคนธาตุดิน จะถูกโฉลกกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และทิศใต้ ส่วนทิศต้องห้ามจะเป็นทิศตะวันออก กับตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อรู้ตำแหน่งทิศที่ถูกโฉลกกับปีเกิดแล้ว วิธีเลือกห้องคอนโดฯ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร วิธีหาตำแหน่งก็พิจารณาทิศจริงของคอนโดฯ โดยหาจุดกึ่งกลางของคอนโดฯแล้วแบ่งทิศออกเป็น 8 ทิศหลัก
ใครควรจะเลือกตำแหน่งห้องอยู่ด้านไหน มุมไหนของคอนโดฯ ก็รู้ได้ทันที ถ้าไม่สามารถเลือกทิศที่ถูกโฉลกได้ (กรณีมีคนเลือกไปแล้ว) ก็สามารถเลือกตำแหน่งห้องที่อยู่ในทิศทางอื่นได้ ยกเว้นทิศที่ไม่ถูกโฉลกเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น คนเกิดปีเถาะ ธาตุไม้ ถ้าไม่สามารถเลือกทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ หรือทิศเหนือซึ่งเป็นทิศถูกโฉลกได้ ก็สามารถที่จะเลือกห้องทางทิศใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงใต้ แทนก็ได้ ยกเว้นทิศตะวันตก กับทิศตะวันตกเฉียงเหนือเท่านั้น เพราะเป็นทิศไม่ถูกโฉลก

ก็คงต้องย้ำกันอีกที่ว่าอย่าไปซีเรียสให้มากนักในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าห้องจะไม่ตรงตามทิศที่ถูกโฉลกกับตัวเอง แต่ถ้าชัยภูมิหรือสภาพแวดล้อมของห้องนั้นดี ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
กรณีกลับกัน ถ้าห้องที่เลือกถูกโฉลกถูกตำแหน่งกับปีเกิด แต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น มีตึกบังลม ห้องติดกับสุสาน หรือมีหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ตรงกับห้อง อย่างนี้ถือว่า เสียหาย ไม่ควรเลือกโดยเด็ดขาด
เห็นไหมครับ อย่าใช้หลักการพิจารณาแค่ทิศให้ถูกกับดวงชะตาเพียงอย่างเดียว จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบไปด้วย หลายๆคนผิดพลาดในเรื่องนี้ ก็ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
กฎเกณฑ์ต่างๆในทางฮวงจุ้ยเป็นร้อยเป็นพันข้อนั้น ไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว ทุกข้อห้ามข้อบัญญัติ จะมีข้อยืดหยุ่นหรือข้อยกเว้นอยู่เสมอ เหตุผลก็เพราะ สภาพแวดล้อมในแต่ละสถานที่ ย่อมมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันเลย ร้อยบ้านก็ร้อยแบบ อย่างอาคารพาณิชย์หรือห้องแถว ซึ่งหลายๆคนจะมองว่า เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบบ รูปทรง หรือทิศทาง
แต่หลายคนลืมไปว่า จุดที่แตกต่างก็คือ ตำแหน่งของห้องที่ไม่เหมือนกัน ห้องที่อยู่หัวมุม ย่อมต่างจากห้องที่อยู่ตรงกลาง หรือแม้แต่ห้องที่อยู่ติดกันก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน เพราะยังมีเงื่อนไขของการจัดวางข้าวของภายในห้องอีก ซึ่งแต่ละที่ก็มีการจัดที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ควรนำหลายๆปัจจัยมาพิจารณา และที่สำคัญไม่จำเป็นจะต้องถูกต้อง 100 % เพราะไม่มีฮวงจุ้ยที่ไหนถูกต้อง 100 % หรอกครับ เอาแค่ให้ถูกเกิน 50-60 % ก็ถือว่าดีแล้วครับ ชัยภูมิถูก ทิศผิด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ต้องไปกังวลให้เครียดกันเปล่าๆ